พบกับ 4 นักเตะที่คุณควรมีในทีม เพราะจะโกยคะแนนแบบจุกๆในเกมวีค 13
เดอะ สเกาท์ คาดการณ์ 4 นักเตะที่จะพาทีมของคุณประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในเกมวีคที่ 13 ของ FPL 2025/26 โดยเฉพาะเพื่อช่วยให้ผู้จัดการทีมได้เปรียบเหนือคู่แข่งหากคุณเล่นแบบมินิลีก
4 แข้งน่าใช้ FPL GW13
มอร์แกน โรเจอร์ส (แอสตัน วิลล่า) 6.9m
โรเจอร์สทำคะแนน FPL สูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยการซัด 2 ประตูใส่ลีดส์ในเกมวีคที่ 12 ทำให้มีสถิติทำแต้มได้สม่ำเสมอถึง 5 จาก 7 นัดหลังสุด
สถิติของดาวเตะวัย 23 ปีรายนี้ตอกย้ำสถานะของเขาในฐานะผู้เล่นแนวรุกที่คงเส้นคงวาที่สุดของวิลล่า โดยมีโอกาสยิงเข้ากรอบ 8 ครั้งและสร้างโอกาสทอง 3 ครั้ง ถือเป็นสถิติสูงสุดของทีม ขณะที่การสร้างโอกาสถึง 11 ครั้งของเขาเป็นรองเพียงกัปตันทีมอย่างจอห์น แม็คกินน์ (5.4m)
โรเจอร์สลงเล่นเป็นตัวจริงทุกนัดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ โดยลงเล่นมากกว่าเพื่อนร่วมทีมคนใด ความมั่นใจในตัวเองและความสามารถในการเล่นในตำแหน่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นปีก กองกลางตัวรุก หรือแม้แต่กองหน้าตัวที่สอง ล้วนเป็นคุณสมบัติที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโปรแกรมการแข่งขันเริ่มแน่นขนัดมากขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ วิลล่ายังเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในการเล่นในบ้านฤดูกาลนี้ และสุดสัปดาห์นี้พวกเขาจะพบกับวูล์ฟส์ ซึ่งไม่ชนะใครในลีกมา 12 นัดในฤดูกาลนี้ เสียไป 27 ประตู และไม่สามารถเก็บคลีนชีตเลย
แน่นอนว่าโปรแกรมการแข่งขันของวิลล่าค่อนข้างดีในระยะยาว เกมเหย้าและเยือนกับอาร์เซนอลเป็นเพียง 2 จาก 10 สัปดาห์ถัดไปที่มีค่า FDR สูงกว่า 3 แต้ม
เจเรมี โดกู (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 6.5m
แม้ว่าเขาอาจจะพลาดโอกาสทองในเกมวีค 12 ที่แพ้ให้กับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แต่ก็มีหลายจังหวะที่โดกูเกือบจะทำแอสซิสต์ที่ 5 ของเขาในฤดูกาลนี้ได้
ปีกชาวเบลเยียมผู้นี้ได้รับการยกย่องจากผลงานการทำประตูและรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมในนัดที่พบกับลิเวอร์พูลก่อนช่วงพักเบรกทีมชาติ จากโอกาสยิงเข้ากรอบ 7 ครั้ง และมีโอกาสทำประตูสำคัญ 3 ครั้ง มากกว่าผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คนอื่นๆ นอกจากเออร์ลิง ฮาแลนด์ (14.9m)
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น โดกูอยู่อันดับ 2 ในตารางสถิตินักเตะที่สร้างโอกาสได้มากที่สุดของลีก โดยสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมถึง 27 ครั้ง และในจำนวนนั้น 6 ครั้งเป็น “โอกาสทำประตูสำคัญ” ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ผู้เล่นคาดว่าจะทำประตูได้ ในบรรดาผู้เล่นที่ลงเล่นทุกเกมในฤดูกาลนี้ เขามีอัตราการสร้างโอกาสต่อนาทีที่ดีที่สุดที่ 26 นาที ต่อครั้ง
นักเตะวัย 23 ปีรายนี้ยังเป็นผู้เล่นที่สัมผัสบอลในแดนสามของสนามได้ดีที่สุดของทีม และอยู่อันดับที่ 4 ในบรรดาผู้เล่นพรีเมียร์ลีกทั้งหมดที่สัมผัสบอลในกรอบเขตโทษของฝ่ายตรงข้าม 71 ครั้ง แม้ว่าจะลงเล่นน้อยกว่าผู้เล่นที่อยู่ในอันดับเหนือกว่าเขาถึง 300 นาทีก็ตาม
การหมุนเวียนผู้เล่นและการลดเวลาลงสนามเป็นเรื่องที่น่ากังวลอยู่เสมอ เนื่องจากมีผู้เล่นในแนวรุกมากมายที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลือกใช้ แต่โดกูได้ลงเล่นเป็นตัวจริง 12 จาก 14 นัดหลังสุดให้กับซิตี้ในทุกรายการ และถูกเปลี่ยนตัวออกก่อน 60 นาทีเพียงครั้งเดียว ดังนั้นความสำคัญที่เพิ่มมากขึ้นของเขาในทีมจึงเริ่มเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
อิกอร์ ธิอาโก้ ตีคู่ เอเซ่ ชิงท็อปทราส์เฟอร์ GW13
สเปอร์ส ทำสถิติ xG ต่ำสุดเกมพ่ายปืนยับ
ปืนลุ้น ทรอสซาร์ หายเดั้ยงก่อนบู๊สิงห์บลู
เควิน ชาเดอ (เบรนท์ฟอร์ด) 7.0m
อีกหนึ่งกองกลางราคาปานกลางที่เริ่มต้นฤดูกาล 2025/26 ได้อย่างแข็งแกร่ง แม้ว่า อิกอร์ ติอาโก้ กองหน้าฟอร์มร้อนแรง (6.5m) จะแบกรับภาระการทำประตูให้กับทีมของ คีธ แอนดรูว์ส เป็นหลัก แต่เมื่อชาเดอฟิตกลับมาเป็นตัวจริง เขาทำผลงานในเกมรุกได้ 5 ครั้ง (3 ประตู 2 แอสซิสต์) โดย 4 ครั้งเกิดขึ้นใน 7 เกมวีคหลังสุด และยังน่าจะได้แอสซิสต์เพิ่มด้วยซ้ำ หากติอาโก้ไม่พลาดจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บกับไบรท์ตันในเกมวีคที่ 12
ชาเดอเอาชนะติอาโก้ในการสัมผัสบอลในกรอบเขตโทษ (50 ครั้ง) ในฤดูกาลนี้ และเขายิงประตูทั้งหมดในกรอบเขตโทษได้ 19 ครั้ง เป็นรองเพียงติอาโก้ในบรรดานักเตะเบรนท์ฟอร์ด อีกทั้งชาเดอยังทำได้ 2 ประตูจากโอกาสสำคัญ 4 ครั้ง และสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมถึง 13 ครั้งในฤดูกาลนี้ โดย 3 ครั้งในนั้นเป็นโอกาสสำคัญ
นัดต่อไปเค้าจะเจอกับเบิร์นลีย์ ซึ่งชนะเกมเยือนเพียงนัดเดียวและเสียประตูมากที่สุดในลีกถึง 18 ประตู ขณะเดียวกัน เบรนท์ฟอร์ดชนะ 4 จาก 6 เกมเหย้าในฤดูกาลนี้ โดยเอาชนะทีมใหญ่อย่างนิวคาสเซิล, ลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดังนั้นนี่อาจจะเป็นนัดแรกของชาเดอที่เก็บคะแนนได้ระดับสองหลักในฤดูกาลนี้
เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (ลิเวอร์พูล) 6.0m
ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกต้องเจอกับความยากลำบากอย่างไม่คาดคิด โดยแพ้ 6 จาก 7 นัดหลังสุดในลีก หล่นไปอยู่อันดับที่ 12 ของตาราง อย่างไรก็ตาม ฟาน ไดค์ รั้งอันดับ 2 ในด้านผลงานเกมรับโดยรวมของกองหลัง และสามารถทำแต้มพิเศษเกมรับได้ถึงจาก 7 ครั้ง
มีโอกาสสูงที่เขาจะยังคงทำผลงานได้ดีต่อไป กับโปรแกรมการแข่งขันของลิเวอร์พูลที่ค่อนข้างสวยไปจนถึงปีใหม่ ย่อมเป็นโอกาสที่ดีที่จะเก็บคลีนชีตในพรีเมียร์ลีกครั้งที่ 3
ในทางกลับกัน ฟาน ไดจ์ค ยิงได้ 2 ประตูจากการลงเล่น 4 นัดในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ แต่ยังไม่สามารถทำประตูได้เลยจาก 5 ครั้งที่เขายิงในลีก แม้ว่า 2 ใน 3 ครั้งจะเป็นโอกาสทองก็ตาม
เซ็นเตอร์แบ็กเจ้าของส่วนสูง 6 ฟุต 4 นิ้วผู้นี้ มักจะเป็นภัยคุกคามในลูกกลางอากาศและเป็นเป้าหมายของลูกตั้งเตะอยู่เสมอ นับเป็นข่าวดีเมื่อพิจารณาจากเกมวีคที่ 13 เวสต์แฮมคู่แข่งของเขาเสียโอกาสยิงจากลูกตั้งเตะถึง 62 และถูกคู่แข่งขึ้นโหม่ง 56 ครั้ง มากกว่าสโมสรอื่นๆ ขณะเดียวกันก็ยังตามหลังเพียงเบิร์นลีย์ในเรื่องจำนวนการยิงประตูทั้งหมด การยิงเข้ากรอบ และเสียโอกาสทอง
Credit by PM-Manager
Picture Credit by Fantasy Premier League
