สโมสรจะรับมืออย่างไรหลังจากสูญเสียผู้เล่นคนสำคัญไปแข่งขันระดับนานาชาติ
ผู้เล่นพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 38 คน มีชื่อติด ทีมชาติ ไปทำการแข่งขันแอฟริกาคัพออฟเนชั่นส์ และเอเชียนคัพ ที่เปิดฉากขึ้นแล้ว ทำให้หลายทีมต้องประสบปัญหากันถ้วนหน้า ยกเว้นเพียง 3 สโมสรได้แก่ เบิร์นลีย์, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากทัวร์นาเมนต์นี้
มาดูที่ทีมที่ได้รับผลกระทบไม่เยอะกันก่อน เริ่มจาก เชลซีที่มีปัญหาในแดนหน้าต้องเสีย นิโคลัส แจ็คสัน ไปเล่นกับ เซเนกัล แต่ยังมี อาร์มานโด้ โบรย่า ที่พึ่งทำประตูใส่เปรสตันในเอฟเอ คัพ เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว มารับภาระในตำแหน่งเบอร์ 9 แทน หลัง คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ยังไม่สมบูรณ์
เอฟเวอร์ตันไม่มี อิดริสซา เกย์ แต่ยังดีที่ อับดุลลาย ดูคูเร่ กลับมาจากอาการบาดเจ็บได้ทันท่วงที และคริสตัล พาเลซ จะเสียหายเพียงเล็กน้อยจากการสูญเสียจอร์แดน อายิว ซึ่งทำได้ 2 ประตูและ 5 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้
เบรนท์ฟอร์ด แม้จะเสีย โยอัน วิสซา แต่ก็ได้ อิวาน โทนี่ย์ กลับมา ขณะที่ไบร์ทตัน ที่ไม่มี คาโอรุ มิโตมะ ก็ถือว่าให้แข้งแดนปลาดิบได้ไปพักรีเซ็ตตัวเอง หลัง 14 นัดล่าสุดในทุกรายการยิงไม่ได้ และทำเพียง 1 แอสซิสต์
ทีมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดกับเสียแข้งไป ทีมชาติ
-สเปอร์ส (ซน ฮึง-มิน, อีฟส์ บิสซูม่า, ป๊าป ซาร์)
อันเก้ โปสเตโคกลู รักษาฟอร์มของสเปอร์สให้มั่นคงขึ้นอีกครั้ง จนสามารถกลับมาเป็นผู้ท้าชิงแข่งขันชิงพรีเมียร์ลีก แต่ก็ต้อเจอปัญหาการเสียนักเตะเข้าอย่างจัง
ซน ฮึง-มิน คือการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุด หลังกัปตันรายนี้ทำ 12 ประตูและ 5 แอสซิสต์ ทำให้ฤดูกาล 2023/24 เค้ามีอัตราการมีส่วนร่วมที่ดีที่สุดในอาชีพอยู่ที่ 0.91 ประตูต่อ 90 นาที
ในยุคของบอสอังเก้ ตี๋ซน มีอิสระในเกมรุกมากขึ้น แต่เมื่อไม่มี เจมส์ แมดดิสัน ที่บาดเจ็บออกไป ทำให้ตัวสร้างสรรค์เกมของสเปอร์สจำกัดลงไปอีก แม้ว่าการมาของ ติโม แวร์เนอร์ จะช่วยได้บ้างก็ตาม
นอกจากนี้การเสียคู่กลางอย่าง อีฟส์ บิสซูม่า และป๊าป ซาร์ ที่ไปเล่นให้มาลี และเซเนกัล ตามลำดับ ทำให้แดนกลางอ่อนลงแน่นอน เนื่องจากทั้งคู่ลงเป็นตัวจริงคู่กัน 75 เปอร์เซ็นต์ของการแข่งขันลีกจนถึงตอนนี้
ดังนั้นเราจะได้เห็น โรดริโก เบนตันคูร์, โอลิเวอร์ สคิปป์ และปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบีย สลับกันลงเล่น และถึงแม้ทุกคนจะเป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์ แต่การไม่มีเวลาเล่นเกมร่วมกันเป็นปัญหาเมื่อพิจารณาถึงความยากลำบากในโปรแกรมการแข่งขันของสเปอร์ส ที่จะพบ เบรนท์ฟอร์ดและเอฟเวอร์ตัน ที่เป็นคู่ต่อสู้ที่เหนียวแน่น ในขณะเดียวกัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และไบรท์ตัน สองทีมที่เล่นเกมเร็ว จะสนุกกับการโต้กลับ หลังไม่มีกองกลาง 2 รายนี้มาเบรกเกม
-น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (โอลา ไอน่า, แซร์จ ออริเยร์, วิลลี่ โบลี่, ชีคู คูยาเต้, มุสซ่า เนียกาเต้, อิบราฮิม ซานกาเร่)
ไม่มีทีมใดขาดผู้เล่นทีมชุดใหญ่มากเท่ากับฟอเรสต์ ซึ่งขาดผู้เล่นทีมชุดใหญ่ไป 6 คน แถมยังมีโปรแกรมหนักรออยู่หลายนัดอีกด้วย
ยังดีที่ นูโน ซานโต เหมือนเตรียมแผนรับมือไว้แล้ว จึงไม่ได้ใช้งานทั้ง 6 คนออกสตาร์ทพร้อมกันมากนัก แม้ว่า ไอน่าและเนียกาเต้ จะเป็น 2 ใน 4 ผู้เล่นแบ็คโฟร์ก็ตาม โดยมี แฮร์รี ทอฟโฟโล ลงเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย แต่ขณะที่ โบลี เป็นเซ็นเตอร์แบ็กตัวเลือกอันดับ 3 ของนูโน่
ดังนั้น โจ วอร์รอลล์ จะลงเล่นเคียงข้างมูริลโล่ แม้ยังดูน่าเป็นห่วง เนื่องจากในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3 จะโดน แบล็คพูล ทีมจากลีกวัน เจาะตาข่ายถึง 2 ครั้งที่ซิตี้ กราวด์
4 นัดที่รออยู่พวกเค้าจะเจอกับ เบรนท์ฟอร์ด, อาร์เซนอล, บอร์นมัธ และนิวคาสเซิ่ล ซึ่งต่างมีเกมรุกที่รวดเร็วอาจทำให้ฟอเรสต์ต้องเจองานหนัก
หรืออีกทางหนึ่งอาจทำให้ นูโน่ ย้ายไปเล่นแบ็คทรีเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในแนวรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวอร์รอลล์เล่นตรงกลางของแบ็คทรีในเกมที่ฟอเรสต์เอาชนะเชลซี 1-0 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์เมื่อช่วงต้นฤดูกาลนี้
ไม่ว่าเขาตัดสินใจอย่างไร แน่นอนว่า นูโน่ จะพบกับเดือนที่มีมีความท้าทายอย่างมาก
ฟูแล่ม (คาลวิน แบสซีย์, อเล็กซ์ อิโวบี, โฟเด บัลโล-ตูเร่)
ฟูแล่มเจองานยากเสมอยามต้องเสียผู้เล่น 11 คนแรกไปแม้จะแค่รายเดียว อย่างเช่นล่าสุดที่ วิลเลี่ยน ต้องพักในช่วงปลายเดือนธันวาคม และพวกเค้าแพ้ 2 นัดติดต่อ เบิร์นลีย์และบอร์นมัธ
ดังนั้น มาร์โก ซิลวา มีปัญหาแน่กับการสูญเสีย แบสซีย์ และอิโวบี้ โดยรายแรกคือเซ็นเตอร์แบ็คที่สำคัญที่สุดของทีม และรายหลังคือกองกลางตัวสร้างสรรค์เกมพลังงานสูง
อิโวบี สร้างโอกาสยิงได้มากกว่าผู้เล่นฟูแล่มคนอื่นๆในฤดูกาลนี้ โดยทำได้ 32 ครั้ง และเป็นรองเพียง ทอม แคร์นีย์ ในการจ่ายบอลขึ้นหน้า โดยทำได้ 78 ครั้ง ซึ่งการขาดเจ้าตัวส่งผลกระทบในพื้นที่ต่างๆของสนามแน่นอน ไม่ว่าเค้าจะออกสตาร์ททางด้านซ้าย, ขวาหรือเป็นหมายเลข 10
บาสซีย์เป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่กว่า หลังจากออกสตาร์ตมาแบบเงียบๆ ก่อนเริ่มทำผลงานระดับสูงในฤดูกาลนี้ และถือเป็นฟอร์มที่ดีที่สุดของเค้ากับฟูแล่มจนถึงปัจจุบันโดยเฉพาะในเกมลีกนัดล่าสุดที่เปิดบ้านเก็บชัยชนะเหนืออาร์เซนอล 2-1 ซึ่งแนวรับวัย 24 ปีเก็บ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ได้อยู่หมัด
เป็นเรื่องยากสำหรับฟูแล่มที่จะรักษาฟอร์มเดิมในการเจอกับเชลซี หรือในคาราบาวคัพ รอบรองชนะเลิศ เลก 2 กับลิเวอร์พูล โดยไม่มีบาสซีย์อยู่ในแผงหลัง
นอกจากนี้ ฟูแล่ม ยังเก็บได้ 17 แต้มจาก 12 นัดในพรีเมียร์ลีกที่บาสซีย์เป็นตัวจริง และเก็บได้เพียง 7 แต้มจาก 8 นัดที่เค้าไม่ได้ลงเป็นตัวจริง ส่วนสถิติของอิโวบี ก็ใกล้เคียงกัน คือ 16 แต้มจาก 12 นัด และเหลือ 8 แต้มจาก 8 นัดที่ไม่มีอิโวบี
วิเคราะห์บอล แฟนตาซี พรีเมียร์ลีก 2023/24 GW21
ซาลาห์ – ซน ถูกคอ แฟนตาซี เทขาย GW21เซ่นบอลชิงแชมป์ทวีป
สรุปชื่อนักเตะไปทีมชาติ และจะพลาดลงเล่น1-3เกมวีค
-ลิเวอร์พูล (วาตารุ เอ็นโด, โมฮาเหม็ด ซาลาห์)
ในศึกชิงแชมป์แอฟริก่ในอดีต ลิเวอร์พูล ต้องเสียแข้ง 2 จาก 3 ในแดนหน้าอย่าง ซาดิโอ มาเน่ และซาลาห์ ดังนั้นนี่คือสถานการณ์ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เคยผ่านมาแล้ว และในปี 2024 ความกังวลใดๆเกี่ยวกับการขาด ซาลาห์ อาจจะไม่น่ากังวลขนาดนั้นหากมองที่ตัวเลือกในแดนหน้า
คู่แข่งอย่าง บอร์นมัธ และเชลซี มักเปิดพื้นที่ในแดนหลัง ซึ่งน่าจะทำให้ ดาร์วิน นูนเญซ และหลุยส์ ดิอาซ มีโอกาสยิงประตูทดแทน ซาลาห์ ยิ่งไปกว่านั้น เกมที่ยากที่สุดของพวกเขาคือการไปเยือนเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ที่พวกเค้าเพิ่งเอาชนะอาร์เซนอล 2-0 ในเอฟเอ คัพ โดยไม่มี ซาลาห์ นี่แหละ
ซาลาห์ เป็นผู้นำร่วมของพรีเมียร์ลีกในด้านประตูและแอสซิสต์ด้วยการทำ 14 ประตู และ 8 แอสซิสต์ตามลำดับ และยังมีค่าเฉลี่ยสูงสุดในอาชีพสำหรับการจ่ายบอลจังหวะสำคัญด้วยอัตรา 2.44 ครั้ง ต่อ 90 นาที การจ่ายบอลขึ้นหน้าที่ 5.13 ครั้งต่อ 90 และจ่ายบอลทะลุทะลวง 0.67 ครั้งต่อ 90 ปฏิเสธไม่ได้ว่าเค้าสำคัญแค่ไหนในเกมใหญ่แบบนี้
ด้าน เอ็นโด ก็สำคัญเช่นกัน แม้ว่าทีมจะได้ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ กลับมาแล้ว แต่ช่วงหลังที่เค้าลงทำหน้าที่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วยทีมไว้ได้มากจริงๆ
-เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (นาเยฟ อาเกร์ด, โมฮัมเหม็ด คูดุส)
เวสต์แฮมเก็บได้ 10 แต้มจาก 4 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก แต่ฟอร์มที่ดีของพวกเค้าต้องหยุดชะงักลง้วยผลเสมอในเอฟเอ คัพ รอบ 3 กับบริสตอล ซิตี้ และอาจสูญเสียผู้เล่นที่ดีที่สุด 2 คนอย่าง จาร์รอด โบเว่น และลูคัส ปาเกต้า จากอาการบาดเจ็บในนัดดังกล่าว แถมเจอจังหวะนรกมาเสีย คูดุส ไปทีมชาติด้วย
ปีกทีมชาติกาน่ายิงได้ 4 ประตูจาก 5 นัดหลังสุดในทุกรายการให้กับเวสต์แฮม แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเค้าเป็นความแตกต่างร่วมกับปาเกต้าจากปีกฝั่งตรงข้าม
มอยส์จะต้องพึ่งพา แม็กซ์เวล คอร์เน่ต์ ที่แทบไม่ได้รับโอกาสลงสนาม และแดนนี่ อิงส์ ซึ่งนี่ไม่ใช่ความคิดที่น่าสบายใจที่สุดสำหรับแฟนบอลขุนค้อนเลย เมื่อโปรแกรมกับ แมนฯ ยูไนเต็ดและอาร์เซน่อล กำลังมาถึง
เวสต์แฮมจะขาดจังหวะสวนกลับของ คูดุส ในการเจอกับทีม “บิ๊กซิกซ์” รวมถึงการคุมเกมรับของ อาเกิร์ด ในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง
โชคร้ายของเวสต์แฮม ยังไม่หมดเมื่อ คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส ที่เข้ามาแทนที่ของ อาเกิร์ด ก็ได้รับบาดเจ็บในเกมกับบริสตอล ซิตี้ จน อันเจโล อ็อกบอนน่า ต้องลงมาแทน
อย่างไรก็ตาม เกมเยือนเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และเปิดบ้านพบ บอร์นมัธ น่าจะมีนักเตะกลับมาจากอาการบาดเจ็บบ้าง ก่อนที่เวสต์แฮมจะไปเยือนโอลด์แทรฟฟอร์ดในวันที่ 4 กุมภาพันธ์
-วูล์ฟแฮมป์ตัน (รายาน เอท-นูรี, ฮวาง ฮี-ชาน, จัสติน ฮุบเนอร์, บูบาการ์ ตราโอเร่)
การสูญเสีย เอท-นูรี แบ็กซ้ายตัวจริงอาจจะไม่กระทบมากนักเมื่อ แมตต์ โดเฮอร์ตี้ กองหลังมากประสบการณ์สามารถเติมเต็มตรงจุดนี้ได้ ซึ่งทำได้ 3 ประตูในทุกการแข่งขันในฤดูกาลนี้ แบ่งเป็น 2 ประตูในคาราบาว คัพ และ 1 ประตูในพรีเมียร์ลีก แม้จะออกสตาร์ทเพียง 4 นัดก็ตาม
แต่แน่นอนว่าไม่มีใครแทนที่ ฮวาง ฮี-ชาน ที่กำลังอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดในชีวิตโดยทำได้ 10 ประตู และ 3 แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ มีส่วนร่วมโดยตรงกับ 43 เปอร์เซ็นต์ของประตูในลีกของวูล์ฟส์
การประสานงานเล่นเกมโต้กลับของเค้ากับมาธีอัส คุนญ่า เป็นอาวุธเด็ดของทีมหมาป่าภายใต้การคุมทีมของแกรี่ โอนีล และไม่น่าเป็นไปได้ที่ เปโดร เนโต้ จะสามารถแทนที่ประตูเหล่านั้นทั้งหมดได้
มันเป็นจังหวะที่แย่เหมือนกันที่พวกเค้าจะเจอทั้ง ไบรท์ตัน, แมนฯยูไนเต็ด และเชลซี ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ประเภทที่ทีมของโอนีลชอบเล่น แต่ก็ต้องมาขาดอาวุธหนักแดนโสมขาวไป ที่เป็นกุญแจสำคัญที่พาวูล์ฟส์เอาชนะทั้งแมนฯซิตี้, สเปอร์ส และเชลซี แม้เค้าจะยิงได้เพียง 1 ประตูจาก 3 ชัยชนะดังกล่าว และความสำเร็จล่าสุดคือ ชนะ เชลซี 2-1 ซึ่งเป็นโดเฮอร์ตี้นี่แหละที่ซัดชัยช่วงท้ายเกม
Credit by FPLTHAI
Picture Credit by Fantasy Premier League