หลังจากการมาของคาลาฟิออรี่ เรามาดูกันว่าใครที่ย้ายจากอิตาลีแล้วมาฟอร์มเทพที่พรีเมียร์ลีกกันบ้าง
ริคคาร์โด้ คาลาฟิโอรี คือผู้เล่นคนล่าสุดที่ย้ายจากกัลโช่ เซเรีย อา มาสู่พรีเมียร์ลีก หลังจากกองหลังวัย 22 ปีรายนี้ย้ายจากโบโลญญ่ามาร่วมทีมอาร์เซนอล
บทความนี้เรามาย้อนอดีตกันว่ามครคือผู้เล่นที่ดีที่สุดที่เคยย้ายจากลีกสูงสุดของอิตาลีมาสู่อังกฤษตั้งแต่พรีเมียร์ลีกเริ่มก่อตั้งในปี 1992/93 โดยคุณสามารถโหวตได้ว่าใครคือผู้เล่นต่างชาติที่ดีที่สุดจากอิตาลีตามลิงค์นี้ https://www.premierleague.com/news/4067179#fek-45c25845-3b58-48b9-baa8-0571dfb7661e
9 แข้งที่ย้ายจาก เซเรีย อา แล้วมาฟอร์มเทพที่พรีเมียร์ลีก
-เธียร์รี่ อองรี
อองรีอาจเป็นนักเตะต่างชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก หลังจากย้ายมาจากยูเวนตุสมาเล่นกับอาร์เซน่อลในเดือนสิงหาคมปี 1999
ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสใช้เวลาไม่นานในการปรับตัวเข้ากับบอลอังกฤษ โดยยิงได้ 17 ประตูจากการลงเล่น 31 นัดในลีกสูงสุดในฤดูกาลแรกของเค้าที่อาร์เซนอล
ในช่วง 8 ฤดูกาลเต็มกับ “เดอะ กันเนอร์ส” และช่วงเวลาสั้นๆที่ถูกยืมตัวกลับมาในฤดูกาล 2011/12 อองรีคว้าแชมป์ลีกได้ 2 สมัย หนึ่งในนั้นคือการเป็นส่วนหนึ่งของตำนานแชมป์ไร้พ่ายในฤดูกาล 2003/04 รวมถึงได้รางวัลรองเท้าทองคำ 4 ครั้งและรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก 2 ครั้ง
เพื่อเป็นการยอมรับในความสำเร็จของเค้า อองรีเป็น 1 ใน 2 ผู้เล่นชุดแรกที่ได้รับการบรรจุเข้าสู่หอเกียรติยศของพรีเมียร์ลีก
-โมฮัมเหม็ด ซาลาห์
หลังจากช่วงแรกที่ยากลำบากในพรีเมียร์ลีกกับเชลซี ซาลาห์ได้ย้ายไปเล่นในเซเรีย อา กับฟิออเรนติน่า และโรม่า จากนั้นจึงกลับมาเล่นให้กับลิเวอร์พูลและทำผลงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อแทบทุกฤดูกาลตั้งแต่ฤดูกาล 2017/18
ในฤดูกาลแรกของแข้งชาวอียิปต์กับหงส์แดง บังโมยิงได้ 32 ประตูในลีก ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในฤดูกาลที่ลงเล่น 38 นัด และสามารถคว้าแชมป์รายการสำคัญทุกรายการกับลิเวอร์พูล รวมถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2019/20 ยุติการรอคอย 30 ปีของสโมสรได้สำเร็จ
ซาลาห์ยังคว้ารางวัลรองเท้าทองคำได้ 3 ครั้ง, รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก 1 ครั้ง และรางวัลเพลย์เมคเกอร์ 1 ครั้งสำหรับผู้เล่นที่ทำแอสซิสต์ได้มากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล
-ปาทริค วิเอร่า
หนึ่งในนักเตะที่อาร์แซน เวนเกอร์เซ็นสัญญาเข้ามาครั้งแรกในปี 1996 จากเอซี มิลาน และช่วยเสริมอกร่งให้อาร์เซน่อลจนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 3 สมัย ในยุคที่ต้องดวลกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในหนึ่งในคู่แข่งที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก
วิเอร่าลงเล่นในลีกให้กับอาร์เซนอลไป 279 นัด ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2000/01 และคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 4 สมัย รวมถึงอีก 1 สมัยเมื่อเค้ากลับมาอังกฤษในเดือนมกราคม 2010 กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้
เช่นเดียวกับอองรี วิเอร่าได้รับการบรรจุเข้าสู่หอเกียรติยศของพรีเมียร์ลีก โดยจะเข้าหอเกียรติยศได้ในปี 2022
-จานฟรังโก้ โซล่า
นักเตะชาวอิตาลีสูง 5 ฟุต 6 นิ้วรายนี้ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับเชลซีเป็นเวลา 7 ฤดูกาลหลังจากย้ายมาจากปาร์ม่าเมื่อเดือนพฤศจิกายน 1996 โดยยิงได้ 59 ประตูและทำแอสซิสต์ได้ 42 ครั้งจากการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 229 นัด
ในช่วงเวลาที่อยู่กับสแตมฟอร์ด บริดจ์ โซล่าคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย รวมถึงลีกคัพ ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ และยูฟ่าซูเปอร์คัพ อย่างละสมัย
นอกจากประตู แอสซิสต์ และถ้วยรางวัลแล้ว สไตล์การเล่นของโซล่ายังทำให้แฟนบอลนั่งไม่ติดเก้าอี้ ขณะที่กองหลังคู่แข่งต้องดิ้นรนเพื่อแย่งบอลจากเค้าให้ได้
ปืนใหญ่ปิดดีล คาลาฟิออรี่ เสริมแกร่งแนวรับ
ไฮไลท์ฟุตบอล ยูโร 2024 : สวิตเซอร์แลนด์ vs อิตาลี
อลิสซอน เนื้อหอมกำลังได้รับความสนใจจากทีมในลีกซาอุฯ
-เดนนิส เบิร์กแคมป์
ตำนานทีมชาติเนเธอร์แลนด์เป็นอีกคนที่มาสร้างชื่อเสียงให้กับพรีเมียร์ลีก หลังจากย้ายมาจากอินเตอร์ มิลาน ในปี 1995
เบิร์กแคมป์เป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมกับอองรี ความสามารถทางเทคนิคและสายตาที่เฉียบคมในการจ่ายบอลของนักเตะชาวดัตช์ทำให้เพื่อนร่วมทีมมีอาวุธที่หลากหลาย ในขณะเดียวกัน เขายังยิงประตูที่น่าจดจำได้อีกหลายประตูด้วย
เบิร์กแคมป์ยิงได้ 87 ประตู 94 แอสซิสต์ใน 315 นัดในลีกสูงสุด และคว้าแชมป์ลีกได้ 3 สมัย เบิร์กแคมป์ยังเป็นเจ้าของสถิติร่วมของพรีเมียร์ลีกในการแอสซิสต์สูงสุดในหนึ่งนัด โดยเขาจ่ายบอลให้อาร์เซนอลยิง 4 ประตูในเกมที่พบกับเลสเตอร์ ซิตี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ 1999
-เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
ผู้รักษาประตูทีมชาติเนเธอร์แลนด์สร้างความตกตะลึงให้กับโลกด้วยการย้ายจากยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่ของอิตาลี ไปร่วมทีมฟูแล่ม เมื่อปี 2001 แม้หลายคนมองว่าคงเป็นช่วงขาลงของนายทวารวัย 30 ปี ณ ตอนนั้น แต่เจ้าตัวก็ลบล้างข้อสงสัยนั้นทันทีด้วยผลงาน 4 ฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่เครเวน คอทเทจ
จากนั้น ฟาน เดอร์ ซาร์ เซ็นสัญญากับแมนฯ ยูไนเต็ดในปี 2005 และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เค้าคว้าแชมป์ลีกได้ 4 สมัยจาก 6 ฤดูกาลที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด รวมถึง 3 สมัยติดต่อกันในฤดูกาล 2006/07, 2007/08 และ 2008/09
ในฤดูกาลที่คว้าแชมป์ได้ 3 สมัย เจ้าตัวเก็บคลีนชีตได้ 14 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2008 ถึงกุมภาพันธ์ 2009 ซึ่งยังคงเป็นสถิติการแข่งขัน และคว้ารางวัลถุงมือทองคำด้วยการเก็บคลีนชีตได้ 21 นัด
-อลิสซอน
เช่นเดียวกับซาลาห์ อลิสซอนย้ายจากโรม่ามาอยู่กับลิเวอร์พูลและสร้างผลงานสุดยอดได้ทันที ก่อนจะพิสูจน์ตัวเองจนกลายเป็นผู้รักษาประตูที่สม่ำเสมอและเชื่อถือได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เมื่อมาถึงแอนฟิลด์ในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ผู้รักษาประตูชาวบราซิลรายนี้คว้ารางวัลถุงมือทองคำได้ในทันทีในฤดูกาล 2018/19 โดยเก็บคลีนชีตได้ 21 นัด ขณะเดียวกันก็คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกได้อีกด้วย
หลังจากนั้นพี่หมีก็คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ และคว้ารางวัลถุงมือทองคำอีกครั้งในฤดูกาล 2021/22 หลังจากไม่เสียประตูเลย 20 นัด
อลิสซอนยังกลายเป็น 1 ใน 6 ผู้รักษาประตู ที่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ หลังจากโหม่งประตูชัยในช่วงท้ายเกมได้อย่างน่าทึ่งในเกมที่พบกับเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนในปี 2021
-คริสเตียโน โรนัลโด้
แม้ว่าฤดูกาล 2021/22 ของแมนฯ ยูไนเต็ดจะไม่ใช่ฤดูกาลที่น่าจดจำ แต่ในกรณีของโรนัลโด้ที่ย้ายจากยูเวนตุสกลับมาสู่ถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็อาจจะไม่สามารถพูดแบบเดียวกันได้
กองหน้าชาวโปรตุเกสผู้โด่งดังซัดไป 18 ประตูจากการลงสนามในลีกเพียง 30 นัด รวมถึงแฮตทริกกับท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ และนอริช ซิตี้
-รุด กุลลิท
เชลซีเซ็นสัญญากับกุลลิท อดีตแข้งบัลลงดอร์จากซามป์โดเรียในปี 1995 ทำให้กลายเป็นที่น่าจับตามองทันที
แม้ว่าจะลงเล่นให้กับสิงห์บลูส์เพียงแค่ 3 ฤดูกาลเท่านั้น ก่อนจะมาเป็นผู้จัดการทีม แต่สไตล์การเล่นอันเฉียบคมของเค้าทำให้เป็นที่น่าจำใจในช่วงดังกล่าว
Credit by PM-Manager
Picture Credit by Fantasy Premier League