13 แนวรับ ที่เจ็บไปนานแต่พร้อมกลับมาลงสนามในซีซั่น 2024/25

แนวรับ

เปิดผู้เล่นเกมรับที่พลาดลงสนามไปเกือบทั้งฤดูกาลที่แล้ว แต่กลับมาฟิตในซีซั่น 2024/25

 

ก่อนเริ่มฤดูกาลใหม่ นอกจากการเสริมทัพนักเตะใหม่เข้ามาแล้ว ยังมีกลุ่มแข้งที่เจ็บไปอย่างยาวนานจนแทบไม่ได้เล่นเมื่อฤดูกาลก่อน ที่สามารถฟิตกลับมาลงสนามได้ จนเหมือนได้ แนวรับ ใหม่เข้ามาเสริมทีมใน ฤดูกาล 2024/25 เราไปดูกันว่าแข้งเหล่านั้นมีใครบ้าง

 

13 แนวรับ ที่เจ็บไปนานแต่พร้อมแล้วสำหรับซีซั่น 2024/25

 

-ยูร์เรียน ทิมเบอร์ (5.5m, อาร์เซน่อล)

มิเกล อาร์เตต้า ไม่มีแบ็คซ้ายที่ลงเล่นเป็นตัวจริงแบบประจำเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ในฤดูกาล 2024/25 น่าจะมีชื่อของทิมเบอร์อยู่ในแคนดิเดตนั้น

นักเตะสารพัดประโยชน์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์รายนี้มีความโดดเด่นในช่วงปรีซีซั่นเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว โดยแสดงทักษะการป้องกันที่แข็งแกร่ง และความหลากหลายระดับท็อปคลาสจากตำแหน่งอินเวิร์ทฟูลแบ็ก

แต่อาการบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้า (ACL) เพียง 50 นาทีในการประเดิมสนามในพรีเมียร์ลีก ทำให้ฤดูกาลของเค้าต้องพังลง โดยนักเตะชาวดัตช์รายนี้กว่าจะกลับมาลงสนาม ก็เป็นช่วง 21 นาทีสุดท้ายในนัดสุดท้ายของฤดูกาลเท่านั้น

วิลเลียม ซาลิบา, กาเบรียล และเบ็น ไวท์ ต่างหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บสาหัสได้ โดยพวกเค้าพลาดลงสนามรวมกันไปเพียง 3 นัดเท่านั้น หากอาร์เซนอลไม่โชคร้ายอีกครั้ง ทิมเบอร์จะได้พิสูจน์ว่าเค้าเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับผู้จัดการทีมของเค้า

นักเตะวัย 23 ปีสามารถเล่นในตำแหน่งใดก็ได้ในแนวหลัง และสามารถทดแทนตัวหลักทั้ง 3 คนที่กล่าวมาได้

 

-ไทโรน มิงส์ (4.5m, แอสตัน วิลล่า)
อูไน เอเมรี จะได้ มิงส์ เซ็นเตอร์แบ็กกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง ขณะที่แอสตัน วิลล่าต้องเจอกับโปรแกรมในประเทศและยุโรปที่มากขึ้นในฤดูกาล 2024/25

อาจจะไม่ง่ายที่จะแย่งตำแหน่งกับ เปา ตอร์เรส กองหลังตัวกลางด้านซ้ายที่เล่นได้น่าประทับใจ แต่ความโดดเด่นของมิงส์ในลูกกลางอากาศ การอ่านเกม และความสามารถในการซ้อนทางแบ็คซ้าย ทำให้เค้าจะได้โอกาสกลับมาลงสนามอย่างแน่นอน

มิงส์ลงเล่นเพียง 31 นาทีในฤดูกาล 2023/24 หลังจากได้รับบาดเจ็บ ACL ในเกมกับนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในช่วงสุดสัปดาห์แรกของฤดูกาล 2023/24 แต่หากเปรียบเทียบสถิติตัวเลขของเค้าจากฤดูกาล 2022/23 ถือว่าทำได้ดีกว่าแนวรับเกือบทุกรายที่มีส่วนช่วยพาทีมจบอันดับ 4

ในช่วงเวลาที่พวกเค้าตกอยู่ภายใต้ความกดดันและต้องถอยไปป้องกันเขตโทษของตัวเอง มิงส์คือกองหลังที่ดีที่สุดของวิลล่า

 

-แม็กซ์ อารอนส์ (4.5m, บอร์นมัธ)

เมื่อใดก็ตามที่เค้าพร้อม อารอนส์จะได้ประจำการทางแบ็คขวาให้กับ บอร์นมัธอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นเค้าจึงสามารถเป็นกำลังสำคัญในฤดูกาล 2024/25 ที่สไตล์การเล่นแบบจอมบู๊ของเค้าเหมาะสมอย่างยิ่งกับแท็กติกของ อันโดนี่ อิราโอล่า กุนซือชาวสเปน

โชคไม่ดีที่อารอนส์ประสบปัญหาแฮมสตริงระหว่างฤดูกาล ซึ่งหมายความว่าเค้าพลาดเกมพรีเมียร์ลีกไปถึง 18 นัด และมีช่วงที่ต้องพักยาวๆถึง 2 รอบ

ด้วยสไตล์การเล่นแบบแบ็คจอมบุก และคุณสมบัติในการแย่งบอลของเค้าโดดเด่นกว่า อดัม สมิธ คู่แข่งในตำแหน่งแบ็กขวาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

 

-วาเลนติน บาร์โค (4.0m, ไบรท์ตัน)

หลังย้ายมาจากโบคา จูเนียร์สในเดือนมกราคม สตาร์ทีมชาติอาร์เจนติน่ารุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี มีเวลาเล่นเกมที่จำกัดที่ไบรท์ตัน แต่แบ็คซ้ายพรสวรรค์รายนี้ยังมีโอกาสในการพัฒนาอย่างมากในฤดูกาลนี้

แบ็คซ้ายวัย 19 ปีรายนี้ครองบอลได้ดี สามารถหุบเข้าไปเล่นเป็นอินเวิร์ท ฟูลแบ็ค และดันขึ้นไปริมเส้นได้ เค้ามีคุณสมบัติพร้อมทั้งหมดและมีอนาคตที่สดใส

บาร์โคโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจในการลงเล่นครึ่งหลังกับเชลซีในเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล เค้าหาตำแหน่งไปอยู่ทุกหนทุกแห่งของสนาม โดยมองหาการเปลี่ยนการเล่น หรือจ่ายบอลเข้าไปในพื้นที่อยู่เสมอ และมีสถิติสัมผัสบอล 70 ครั้งในเวลาเพียง 45 นาที

ไม่แปลกใจถ้า ฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์ เฮดโค้ชคนใหม่จะใช้เค้าเล่นหลายตำแหน่งระหว่างฤดูกาล 2024/25

 

-ริโก เฮนรี (4.5m, เบรนท์ฟอร์ด)

มีหลายปัจจัยที่ต้องมานั่งถกกันสำหรับคะแนนของเบรนท์ฟอร์ดที่ลดลงจาก 59 เหลือ 39 ในฤดูกาลที่แล้ว และการไม่มีเฮนรี่ในตำแหน่งแบ็กซ้ายถือเป็นหนึ่งในสาเหตุอย่างแน่นอน

นักเตะวัย 26 ปีรายนี้มองหาความท้าทายอยู่เสมอและเต็มไปด้วยพลัง อาการบาดเจ็บ ACL ของเค้าเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ถือเป็นอาการบาดเจ็บที่ โธมัส แฟรงค์ หาตัวแทนที่สร้างความสมดุลแทนเฮนรี่ได้ยากยิ่งใน 33 นัดที่เค้าหายไป

ในฤดูกาล 2022/23 ที่เฮนรี่ลงเป็นตัวจริง 37 นัด ช่วยให้ทีมตราผึ้งเก็บได้ถึง 12 คลีนชีต และมีเกมรับเหนียวแน่นปล่อยให้คู่ต่อสู่ยิงได้เพียง 1 ประตู หรือตำกว่าืั้ 26 นัด

ในการแข่งขัน 33 นัดที่เค้าพลาดลงสนาม เบรนท์ฟอร์ดเก็บคลีนชีทได้แค่ 6 นัด และเสียประตู 16 นัด

 

แนะนำแนวรับ ตัวดิฟ ราคาประหยัดสำหรับต้นซีซั่น

4 นักเตะที่ควรอยู่ในทีมช่วงออกสตาร์ท FPL 2024/25

แฟนตาซี แนะเลือก กัปตันทีม ประเดิมฤดูกาลใหม่

 

อารอน ฮิคกี้ (4.5m, เบรนท์ฟอร์ด)

แบ็คขวาทีมชาติสกอตแลนด์กลับมาลงสนามได้อีกครั้งหลังจากได้รับบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายอย่างรุนแรงซึ่งทำให้เค้าต้องพักตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม

แบ็คจอมลุยวัย 22 ปีรายนี้เล่นได้ทั้งแบ็คขวาและแบ็คซ้าย ดังนั้นเมื่อฟิตเต็มที่ ฮิคกี้จะช่วยให้ผู้จัดการทีมมีตัวเลือกทางแท็คติกที่เป็นประโยชน์อย่างแน่นอน

เบรนท์ฟอร์ดมีคะแนนเฉลี่ย 1.33 แต้มต่อนัด จนกระทั่งฮิคกี้ตรวจพบปัญหากล้ามเนื้อ และในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกอีก 29 นัดที่เหลือ ทีมมีค่าเฉลี่ยลดลงเหลือ 0.93 แต้มต่อนัด

ด้วยความสามารถรอบด้าน ความเชื่อมั่น และอายุน้อยพอที่พัฒนาฝีเท้า ฤดูกาล 2024/25 น่าจะเป็นปีที่ฮิคกี้จะฟื้นอาชีพค้าแข้งในลีกสูงสุดของเค้าอีกครั้ง

 

-เวสลีย์ โฟฟานา (4.5m, เชลซี)

กองหลังตัวกลางผู้เหมือนได้เซ็นสัญญาใหม่ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อเค้ากลับมาจากอาการบาดเจ็บ ACL ระยะยาวในช่วงซัมเมอร์นี้

นักเตะชาวฝรั่งเศสวัย 23 ปีย้ายมาจากเลสเตอร์ ซิตี้เมื่อเดือนสิงหาคม 2022 แต่ลงเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกเพียง 12 นัดใน 2 ฤดูกาล

เชลซีล้มเหลวในการจับคู่เซ็นเตอร์แบ็กเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยมีผู้เล่น 5 คนสลับกันทำหน้าที่แต่ก็ขาดความคงเส้นคงวา

สิงห์บลูส์เสีย 2 ประตูขึ้นไปใน 20 จาก 38 นัด ดังนั้นพวกเค้าต้องการความฉลาดและฝีเท้าของโฟฟานาเพื่อช่วยปรับปรุงสถิตินั้น

การจากไปของ ติอาโก้ ซิลวา ปูทางให้เค้ากลับมา และคุณภาพในการครองบอลจะเหมาะกับสไตล์การเล่นของเอ็นโซ มาเรสก้า

ระหว่างฤดูกาล 2022/23 ความแม่นยำในการจ่ายบอลของโฟฟานาทำได้น่าประทับใจถึง 89.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่เข้าแท็คติคกับเฮดโค้ชคนใหม่

 

-รีซ เจมส์ (5.0m, เชลซี)

ปัญหาเจ็บแฮมสตริงซ้ำๆหมายความว่าเจมส์มีชื่ออยู่ใน 11 ตัวจริงของเชลซีเพียง 1 ใน 4 ของการแข่งขันพรีเมียร์ลีกทั้งหมดของเชลซีนับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 2022/23

แบ็กขวารายนี้มีการแข่งขันที่ดุเดือดรออยู่เนื่องจากฟอร์มที่ดีของมาโล กุสโต้ แต่เมื่อฟิตและพร้อม เจมส์ก็มีสถิติที่พิสูจน์แล้วว่าเค้ามีการจ่ายบอลเข้าไปในเขตอันตรายที่ยอดเยี่ยม

จากการลงเล่น 10 นัดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว (5 นัดจากม้านั่งสำรอง) เจมส์จ่ายบอลเฉลี่ย 5 ครั้งต่อ 90 นาที ซึ่งมากกว่ากุสโต้ 2 ครั้ง และไม่มีใครในสแตมฟอร์ด บริดจ์ที่จ่ายบอลสำเร็จได้ 1.5 ครั้งต่อเกมเช่นกัน

การจ่ายบอลที่เค้าจะมอบให้กับกองหน้าเชลซีอาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมเมื่อเจ้าตัวพ้นโทษแบนช่วงต้นฤดูกาลแล้ว

 

-ลิซานโดร มาร์ติเนซ (4.5m, แมนฯ ยูไนเต็ด)

นับตั้งแต่เข้าปี 2024 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่แพ้ใครมา 8 นัดรวมทุกรายการเมื่อมาร์ติเนซลงเป็นตัวจริง และเป็นชัยชนะถึง 6 ครั้ง รวมถึงชัยชนะนัดชิงเอฟเอ คัพ ที่คว่ำแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ด้วย

สถิติดังกล่าวจะทำให้แฟนบอลยูไนเต็ด รวมถึง เอริค เทน ฮาก ยินดีอย่างยิ่งที่จะได้กองหลังรายนี้กลับมาตั้งแต่ต้นฤดูกาล

มาร์ติเนซกระตือรือร้นที่จะฉายแววในฤดูกาล 2024/25 เมื่อหายจากปัญหาเท้า เข่า และน่อง ซึ่งเรื้อรังมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 และจำกัดให้เค้าได้ออกสตาร์ทในพรีเมียร์ลีกเพียง 8 นัดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

ประสบการณ์และความดุดันของเดอะ บุทเชอร์ น่าจะทำให้ทีมแมนฯ ยูไนเต็ดที่เสียประตูในลีกถึง 58 ประตูเมื่อฤดูกาลที่แล้ว กลับมาเหนียวแน่นอีกครั้ง

 

-ลุค ชอว์ (5.0m, แมนฯ ยูไนเต็ด)

แมนฯ ยูไนเต็ดเป็นทีมที่มีความสมดุลมากกว่ามากเมื่อชอว์ครองตำแหน่งแบ็คซ้ายใน 11 ตัวจริง หลังจากพลาดการแข่งขันพรีเมียร์ลีก 26 นัดจาก 38 นัดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ดิโอโก้ ดาโลต์, อารอน วาน-บิสซาก้า, แซร์คิโอ เรกิลอน, วิคตอร์ ลินเดลอฟ และโซฟียาน อัมราบัต ต้องแบ่งงานกันอย่างมีประสิทธิภาพและแทบไม่มีใครทำได้เท่ามาตรฐานของดาวเตะวัย 28 ปีรายนี้

บรูโน เฟอร์นันเดส เป็นเพื่อนร่วมทีมเพียงคนเดียวที่เล่นลูกตั้งเตะได้แม่นยำมากกว่าชอว์ (0.65 ครั้งต่อ 90 นาที) ดังนั้นการกลับมาของเค้าน่าจะปรับปรุงการเล่นลูกเซ็ตพีทที่ทำได้ย่ำแย่เพียง 9 ประตูในการเล่นเมื่อฤดูกาลที่แล้วเช่นกัน

การปรากฏตัวของชอว์ช่วยเร่งการเล่นของยูไนเต็ดให้เร็วขึ้นซึ่งเป็นพื้นที่ในสนามที่พวกเค้าขาดการส่งบอลที่มีคุณภาพไปยังพื้นที่

เมื่อชอว์เล่นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ปีศาจแดงเก็บแต้มได้มากขึ้น ดังนั้นจึงหวังอย่างยิ่งว่าดาเตะก้นงอนจะฟิตต่อไปในฤดูกาล 2024/25

 

-ไทเรลล์ มาลาเซีย (4.5m, แมนฯ ยูไนเต็ด)

กองเชียร์แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้เห็นมาลาเซียลงสนามเลยตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2023 แต่ก็มีความหวังสูงว่าแบ็กซ้ายชาวดัตช์จะฟิตพอที่จะเข้าร่วมในช่วงปรีซีซั่น

การผ่าตัดอาการบาดเจ็บที่เข่าทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนที่ทำให้การพักฟื้นของนักเตะวัย 24 ปีรายนี้ช้าลง แต่เมื่อเค้ากลับมา มันจะเป็นโบนัสอย่างแท้จริงสำหรับเทน ฮาก

บทบาทของเค้าน่าจะเป็นตัวสำรองของชอว์ แต่มาลาเซียเป็นแบ็กซ้ายที่เล่นเกมรับได้ดุดันกว่า

ในแต่ละ 90 นาที เขาสกัดบอลได้มากกว่านักเตะแมนฯ ยูไนเต็ดคนอื่นๆ ในซีซั่น 2022/23 และสกัดบอลได้มากกว่ากองหลังของสโมสรอื่นๆ

เพื่อความสมดุลในทีม ความฟิตพร้อมของมาลาเซียจะช่วยให้ทีมดีขึ้นอย่างแท้จริง

 

-สเวน บอตแมน (4.5m, นิวคาสเซิ่ล)

นิวคาสเซิ่ลชวดใช้งานบ็อตแมนไปหลายเกมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่กองหลังชาวดัตช์ใกล้จะกลับมาได้แล้วในช่วงต้นฤดูกาล 2024/25

เซ็นเตอร์แบ็คจอมแกร่งคือหัวใจสำคัญในแนวรับของทีมเดอะ แม็กพายส์ เมื่อพวกเค้าเสียไปเพียง 33 ประตูในพรีเมียร์ลีกในปี 2022/23

ฤดูกาลที่แล้วตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเป็น 62 ประตู และการเจ็บ ACL ของแนวรับชาวดัตช์ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะตกต่ำครั้งนั้นอย่างแน่นอน

บอตแมนช่วยนิวคาสเซิ่ลทั้งในและนอกการครองบอล เมื่อพิจารณาจากความแข็งแกร่งในการเล่นลูกกลางอากาศในกรอบเขตโทษ ความคล่องตัวหากดูจากขนาดตัวของเค้า และการจ่ายบอลระยะสั้นหรือระยะไกลที่ยอดเยี่ยม การกลับมาของเจ้าตัวที่กำลังจะเกิดขึ้นจะทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก

 

-นิค โป๊ป (5.0m, นิวคาสเซิล)

นายทวารมือ 1 ของทีมก็ต้องได้รับการกล่าวถึงเช่นกัน หลังจากที่พลาดฤดูกาลไป 5 เดือนจากอาการบาดเจ็บที่ไหล่ ซึ่งจำกัดให้เค้าออกสตาร์ทในลีกได้เพียง 15 นัดเท่านั้น

แม้จะออกสตาร์ทน้อยกว่ามาร์ติน ดูบราฟกาถึง 7 นัดซึ่งก็ทำผลงานได้ดีในช่วงที่โป๊ปไม่อยู่ แต่นายทีมชาติอังกฤษก็ยังเก็บคลีนชีตได้มากกว่าประตูทีมชาติสโลวาเกียที่ 6 ต่อ 4 คลีนชีท

นอกจากนี้การออกมายืนไกลจากเขตโทษที่สูงกว่าของโป๊บยังทำให้เค้าหวดบอลยาวได้มากกว่าแผงแบ็คโฟร์ของนิวคาสเซิ่ลเสียอีก นี่เป็นองค์ประกอบสำคัญเมื่อพวกเค้ากดดันคู่ต่อสู้และดันแนวรับขึ้นสูง

 

Credit by PM-Manager

Picture Credit by Fantasy Premier League

หน้าแรก
ข่าวสาร&แฟนตาซี View all
View all

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save